TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นชั้นนำระดับโลก เดินหน้าสร้างพันธมิตรกับหน่วยงานและองค์กรชั้นนำระดับโลกและระดับประเทศ เพื่อมุ่งพัฒนา Digital Economy หรือ นโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล ในประเทศไทย ผ่านการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อสร้างประโยชน์และพัฒนาเศรษฐกิจ ด้วยการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานและองค์กรชั้นนำระดับประเทศในด้านต่างๆ ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข, กรมสุขภาพจิต, กระทรวงศึกษาธิการ โดย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.), กระทรวงพาณิชย์ โดย สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA), กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดย สํานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ในการสร้างสรรค์ความร่วมมือในมิติต่างๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนา Digital Economy ในประเทศไทย ผ่านการใช้แพลตฟอร์ม TikTok ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะสร้างสรรค์รูปแบบการสื่อสารแนวใหม่ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ชนิดา คล้ายพันธ์ Head of Public Policy ของ TikTok กล่าวว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่กำลังเป็นที่นิยมจากจำนวนยอดดาวน์โหลดทั่วโลกที่สูงกว่า 2 พันล้านดาวน์โหลด ที่นอกจากจะให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาประสบการณ์บนแพลตฟอร์มให้กับผู้ใช้ของเราอย่างต่อเนื่องแล้ว TikTok ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนา Ecosystem บนแพลตฟอร์มให้เกิดความยั่งยืน ที่ไม่เพียงสำหรับผู้ใช้ ครีเอเตอร์ หรือพันธมิตรธุรกิจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนา Digital Economy หรือ นโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล ในประเทศไทย ผ่านกลยุทธ์การสร้างพันธมิตรกับหน่วยงานและองค์กรชั้นนำระดับประเทศในหลากหลายมิติไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา สังคมและสาธารณสุข รวมถึงด้านเศรษฐกิจ พร้อมกันนี้ TikTok ยังได้สานต่อแนวคิด TikTok For Good หรือ การสร้างสรรค์แรงบันดาลใจและสร้างประโยชน์ให้กับสังคม ด้วยการนำ TikTok มาใช้เป็นพื้นที่แห่งพลังบวกที่ส่งเสริมและจุดประกายให้เกิดความสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด เพื่อการเชื่อมโยงและส่งต่อคอนเทนท์ที่เป็นประโยชน์และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน ทำให้ในวันนี้ TikTok จึงไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มแห่งความสนุก ความบันเทิง แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มที่หลายองค์กรต่างเลือกใช้ในการสื่อสารเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ อันจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในอนาคตต่อไป 

“TikTok เรามุ่งมั่นในการเป็นส่วนหนึ่งเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และสังคม ด้วยการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานและองค์กรชั้นนำระดับประเทศต่างๆ ในการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลอย่าง TikTok เพื่อเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน สร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติและสังคม ในหลากหลายมิติ อาทิ ด้านการศึกษา, เศรษฐกิจ, คุณภาพชีวิต, สาธารณสุข และสังคม ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สนับสนุนให้กับนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทยอีกด้วย” ชนิดา กล่าวเสริม 

โดยความร่วมมือของ TikTok และหน่วยงานต่างๆ ในการพัฒนา Digital Economy ในประเทศไทย มีดังต่อไปนี้ 

ด้านการศึกษา

TikTok ได้ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ โดย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ในการริเริ่มโครงการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการสร้างสรรค์คอนเทนท์ทางการศึกษาในรูปแบบวิดีโอสั้นบนแพลตฟอร์ม TikTok เพื่อเป้าหมายในการจุดประกายให้เกิดการสร้างสรรค์คอนเทนท์การศึกษาและสาระความรู้ในรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ โดย TikTok ได้จัดกิจกรรมอบรมเพื่อส่งเสริมการศึกษาให้ความรู้แก่ครู อาจารย์ และนักเรียนทั่วประเทศ ผ่าน Webinar หรือ การอบรมเชิงปฏิบัติการผ่านทางออนไลน์ ซึ่งเป็นการเน้นเนื้อหาในเรื่องแนวทางการสร้างสรรค์คอนเทนท์วิดีโอสั้นบน TikTok เพื่อเพิ่มโอกาสในการใช้ TikTok พัฒนาสื่อการเรียนการสอนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและน่าสนใจมากขึ้น รวมถึงการสร้างสรรค์แคมเปญ #TikTokUni ในการเชิญชวนเหล่านักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ อาจารย์ หรือผู้รู้ในแต่ละสาขาวิชา มาสร้างสรรค์คอนเทนท์การศึกษาบน TikTok ซึ่งจากแคมเปญนี้ได้สร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จมากมายทั้งการแจ้งเกิดครีเอเตอร์สายการศึกษาหน้าใหม่เป็นจำนวนมาก และการตอบรับจากผู้ใช้ส่งผลให้ #TikTokUni เป็นแฮชแท็กแคมเปญที่มียอดวิวสูงสุดในประเทศไทย ด้วยจำนวน 15.6 พันล้านวิว 

ด้านสังคมและสาธารณสุข

TikTok ได้ร่วมมือกับ กระทรวงสาธารณสุข ในการเปิดแอคเคาท์ของกระทรวงสาธารณสุข ในชื่อ @thaimoph "ไทยรู้สู้โควิด" ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 เมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือเกี่ยวกับ COVID-19 ทั้งการนำเสนอข้อมูลรายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ และข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับวิธีการดูแลตัวเองในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งถือเป็นไมล์สโตนสำคัญในการที่หน่วยงานภาครัฐเลือกใช้แพลตฟอร์ม TikTok ในการเผยแพร่ข้อมูลผ่านรูปแบบคอนเทนท์วิดีโอสั้น 

นอกจากนี้ TikTok ยังได้ร่วมมือกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในการรณรงค์การเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับ COVID-19 ระลอกใหม่ หลังจากที่เคยร่วมมือกับ สสส. ในการสร้างสรรค์แคมเปญ #ล้างมือ40วิ ในปีที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้คนไทยได้ตระหนักถึงการป้องกันและดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจาก COVID-19 ซึ่งได้รับผลตอบรับอย่างดี ด้วยยอดวิวสูงถึง 5.4 พันล้าน และล่าสุด TikTok ได้ร่วมมือกับ สสส. อีกครั้งในการส่งแคมเปญกระตุ้นให้ผู้คนเกิดการรับรู้เกี่ยวกับการดูแลตัวเองท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ เพื่อนำไปใช้ปฏิบัติได้จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมเชิญชวนคนไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแนะนำไอเดียการดูแลตัวเอง การรักษาความสะอาดและหลีกเลี่ยงสัมผัสจุดเสี่ยง COVID-19 อาทิ วิธีล้างมือสุดครีเอทอย่างถูกวิธี, เช็ดหน้าจอโทรศัพท์มือถือจุดเสี่ยงสัมผัสโรค, ทำความสะอาดลูกบิดประตูพร้อมโชว์สเต็ปแดนซ์ เป็นต้น พร้อมติดแฮชแท็ก #อย่าเพิ่งจับอย่าเพิ่งทัช โดยหลังจากเปิดตัวแคมเปญ #อย่าเพิ่งจับอย่าเพิ่งทัช เมื่อต้นปีที่ผ่านมา พบว่า ได้รับกระแสตอบรับอย่างดี จนสามารถสร้างยอดวิวได้สูงถึง 20.5 ล้าน 

พร้อมกันนี้ TikTok ยังให้ความสำคัญกับการเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตในประเทศไทย โดยได้ร่วมมือกับ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ในการพัฒนากลยุทธ์การประชาสัมพันธ์คอนเทนท์ที่เกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีบนแพลตฟอร์ม TikTok เพื่อสร้างความตระหนักรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ และส่งเสริมให้บุคลากรเจ้าหน้าที่กรมสุขภาพจิตเป็นนักสื่อสารที่สามารถเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ รวมทั้งการจุดประกายให้เรื่องสุขภาพจิตเป็นสิ่งที่พูดคุยกันได้ในสังคม ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในการสานต่อความมุ่งมั่นของ TikTok ในการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยบนแพลตฟอร์ม เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับชุมชนผู้ใช้ TikTok ทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทย 

ด้านเศรษฐกิจ

สำหรับมิติด้านเศรษฐกิจ ล่าสุด TikTok ได้ร่วมมือกับ สํานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนด้านการพัฒนาดิจิทัลคอนเทนท์และครีเอเตอร์ไทย เพื่อขยายโอกาสให้ทุกคนสามารถเป็นผู้สร้างสรรค์คอนเทนท์และครีเอเตอร์มืออาชีพได้ อีกทั้งขยายโอกาสให้คอนเทนท์ไทยและครีเอเตอร์ไทยได้เป็นที่รู้จักในระดับโลก นอกจากนี้ความร่วมมือที่เกิดขึ้นกับ depa ยังมาพร้อมกับมิติของการสร้างโอกาสให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทยด้วยการนำโซลูชั่นการตลาดดิจิทัลแบบครบวงจรอย่าง TikTok For Business เข้ามาเติมเต็มศักยภาพให้กับผู้ประกอบไทยในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันและต่อยอดพร้อมขยายการทำตลาดดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

นอกจากนี้ TikTok ยังได้ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ โดย สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) ในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “ครบเครื่องเรื่องการค้าออนไลน์ by NEA” ที่เน้นการจัดทำหลักสูตรเสริมองค์ความรู้ให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้ด้านการค้าออนไลน์อย่างครบวงจร เพื่อข้ามข้อจำกัดทางธุรกิจในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านทรัพยากร งบประมาณ หรือความรู้ด้านเทคโนโลยี โดยใช้ TikTok For Business สร้างโอกาสให้กับธุรกิจโดยสามารถขยายกลุ่มเป้าหมายด้วยการสร้างสรรค์คอนเทนท์วิดีโอสั้น ซึ่งถือเป็นแนวทางการตลาดดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่กำลังมาแรงและสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจในทุกขนาด 

และนี่ถือเป็นบทพิสูจน์ของ TikTok ในการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผู้คนที่ไม่เพียงแค่การสร้างความสนุกและความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนได้ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ Digital Economy หรือ นโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล ในประเทศไทยร่วมกัน รวมถึงยังสอดคล้องกับแนวคิด TikTok For Good ซึ่งเป็นการส่งเสิรมให้เกิดการสร้างสรรค์แรงบันดาลใจและสร้างประโยชน์ให้กับสังคม