เดินหน้าปล่อยฟีเจอร์สุดล้ำ ยกระดับประสบการณ์แพลตฟอร์มให้ผู้ใช้ไปอีกขั้น 

TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่มาพร้อมกับพันธกิจการจุดประกายความสร้างสรรค์และมอบความสุขให้กับผู้คน ต่อยอดกระแสความนิยมไลฟ์สด สร้างเทรนด์ TikTok LIVE มุ่งยกระดับประสบการณ์แพลตฟอร์มให้ผู้ใช้ไปอีกขั้น พร้อมเปิดตัวฟีเจอร์ LIVE Match ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ครีเอเตอร์สามารถใช้ฟังก์ชั่น Co-Host เพื่อให้ผู้ชมส่งของขวัญให้กับครีเอเตอร์แต่ละคนที่ร่วมไลฟ์ได้, Multi-Guest ที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถชวนเพื่อนมาร่วมไลฟ์พร้อมกันได้สูงสุดรวม 3 คน และ LIVE Countdown Sticker ที่จะแสดงเวลานับถอยหลังก่อนเริ่มไลฟ์ นับเป็นการตอกย้ำกลยุทธ์ด้านการสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้ใช้และยกระดับประสิทธิภาพในการสร้างสรรค์คอนเทนท์บนแพลตฟอร์มที่ดียิ่งขึ้นผ่านการไลฟ์ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมในปัจจุบัน 

สำหรับ Live Streaming เป็นรูปแบบคอนเทนท์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลกและในประเทศไทย สะท้อนได้จากจำนวนคอนเทนท์ Live Streaming ทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 99% เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา (ผลสำรวจจาก StreamElements, 2020) และคิดเป็นสัดส่วนถึง 82% ของจำนวนคอนเทนท์ทั้งหมดบนออนไลน์ (ข้อมูลจาก Cisco’s Visual Networking Index Forecast, 2020) และมากไปกว่านั้นพบว่า ผู้คนใช้เวลากับการดู Live Streaming เพิ่มขึ้นถึง 47% ทั่วโลกในปี 2020 เมื่อเทียบกับปี 2019 (ผลสำรวจของ Interactive Advertising Bureau, 2020) 

จากเทรนด์ความนิยมนี้ส่งผลให้ TikTok ได้มองเห็นโอกาสของ Live Streaming และมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับประสิทธิภาพการสร้างสรรค์คอนเทนท์บนแพลตฟอร์มให้ดียิ่งขึ้น จึงได้เปิดตัว TikTok LIVE ซึ่งเป็นการทำ Live Streaming บนแพลตฟอร์ม TikTok เมื่อช่วงปลายปี 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่า มีผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจทั้งจากผู้ใช้แพลตฟอร์ม ครีเอเตอร์ผู้สร้างสรรค์คอนเทนท์ และแบรนด์สินค้าต่างๆ ด้วยความโดดเด่นของ TikTok LIVE ที่ทำให้เกิดการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สร้างสรรค์คอนเทนท์กับผู้ชมได้แบบเรียลไทม์ อีกทั้งยังเป็นการสื่อสารแบบ Multi-Way Communication ที่สามารถส่งต่อการแสดงความคิดเห็นรวมถึงคำถามและคำตอบต่างๆ ได้ในทันที โดยล่าสุด TikTok ได้มีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่อย่าง LIVE Match ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ครีเอเตอร์สามารถใช้ฟังก์ชั่น Co-Host เพื่อให้ผู้ชมสามารถส่งของขวัญให้กับครีเอเตอร์แต่ละคนที่ร่วมไลฟ์ได้, Multi-Guest ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถชวนเพื่อนมาร่วมไลฟ์พร้อมกันได้สูงสุดรวม 3 คน และ LIVE Countdown Sticker ที่จะแสดงเวลานับถอยหลังก่อนเริ่มไลฟ์  

LIVE Match คือ การแข่งขันไลฟ์ระหว่างครีเอเตอร์ 2 คนโดยใช้ฟังก์ชั่น Co-Host ซึ่งครีเอเตอร์สามารถส่งคำเชิญการแข่งขันไปยัง Host หรือครีเอเตอร์คนอื่นได้ โดยการแข่งขันจะเริ่มต้นโดยครีเอเตอร์ทั้ง 2 ฝั่งสามารถตอบโต้กันหรือพูดคุยเพื่อโน้มน้าวให้ผู้ชมร่วมส่งของขวัญหรือ Virtual Gift ให้กับครีเอเตอร์ทั้ง 2 คนได้ ซึ่งใครที่ได้เยอะกว่าจะเป็นผู้ชนะ โดยฟีเจอร์นี้จะทำให้เกิดการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่สนุกสนานในอีกรูปแบบกับผู้ชม อีกทั้งยังทำให้ผู้ชมได้รู้สึกร่วมเป็นส่วนหนึ่งและสนุกไปกับการลุ้นครีเอเตอร์ที่ตนเองชื่นชอบ 



Multi-Guest การเพิ่มประสบการณ์การไลฟ์ให้กับครีเอเตอร์และผู้ชม ซึ่งสามารถชวนเพื่อนหรือผู้ชมที่กำลังติดตามชมไลฟ์อยู่ในขณะนั้นเข้ามาร่วมไลฟ์พูดคุยเป็นส่วนหนึ่งของการไลฟ์โดยสามารถร่วมไลฟ์พร้อมกันได้สูงสุดรวม 3 คน จากเดิมที่มีฟังก์ชั่น Co-Host ซึ่งจะสามารถไลฟ์คู่พร้อมกันได้ 2 คน โดยฟีเจอร์ Multi-Guest นี้จะเป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างครีเอเตอร์กับผู้ชมคอนเทนท์และเพิ่มความน่าสนใจให้กับคอนเทนท์จากการเพิ่มแขกรับเชิญที่จะมาร่วมกิจกรรมการไลฟ์ 


 

LIVE Countdown Sticker การแสดงเวลานับถอยหลังก่อนเริ่มไลฟ์ เพื่อแจ้งเตือนให้กับผู้ติดตามได้ทราบว่า การไลฟ์ที่กำลังติดตามอยู่นั่นจะเริ่มขึ้นภายในอีกกี่นาที ซึ่งเป็นการช่วยกระตุ้นให้ผู้ชมรอติดตามชมการไลฟ์มากยิ่งขึ้น โดยผู้ชมสามารถเลือกการตั้งค่าแจ้งเตือนได้ อีกทั้งครีเอเตอร์สามารถดูได้ว่า มีจำนวนผู้ชมที่รอรับชมไลฟ์ของเราอยู่ประมาณกี่คน 


 

โดยทั้ง 3 ฟีเจอร์ดังกล่าวนี้ จะช่วยเข้ามาช่วยเติมเต็มประสบการณ์การใช้ TikTok LIVE ที่ได้อรรถรส และสร้างประสบการณ์การรับชมที่สนุกสนานและโดนใจผู้ชมมากยิ่งขึ้น 

และเพื่อทำให้ทุกการสร้างสรรค์การไลฟ์บน TikTok สนุกและได้ใจผู้ชม วันนี้ TikTok จึงขอเสนอแนวทางการสร้างสรรค์คอนเทนท์ไลฟ์สดบน TikTok LIVE ให้สร้างสรรค์และโดนใจผู้ชมมากยิ่งขึ้น ดังนี้ 

1. คอนเทนท์แนวเกาะติดกิจกรรมชาเลนจ์ต่างๆ

TikTok ได้ชื่อว่าเป็นแพลตฟอร์มแห่งการทำชาเลนจ์ที่ในแต่ละวันมีชาเลนจ์ที่เกิดเป็นไวรัลอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการนำชาเลนจ์และกิจกรรมต่างๆ มานำเสนอผ่าน TikTok LIVE เพื่อให้ผู้ชมได้คอยติดตามร่วมลุ้นกับการทำชาเลนจ์เป็นแนวคอนเทนท์ที่กำลังมาแรง และสามารถสร้าง Engagement หรือ การมีส่วนร่วมได้ดีตั้งแต่เริ่มการไลฟ์ด้วยการเชิญชวนผู้ชมให้ร่วมลุ้น แสดงความคิดเห็น หรือทายว่าการทำชาเลนจ์นี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เช่น ครีเอเตอร์พลอย ชิดจันทร์ @ploychogjun กับเบิ้ม @berm.kanyanan ที่ได้จัดไลฟ์ผ่านแคมเปญ #เชฟมือใหม่ โดยเบิ้มได้แจกโจทย์เมนูเครื่องดื่มให้พลอย ชิดจันทร์ ทำตามผ่านการใช้ฟังก์ชั่น Co-Host ซึ่งสร้างยอดวิวสูงถึง 1.12 แสน 

2. คอนเทนท์ถามตอบระหว่างครีเอเตอร์และผู้ชม 

การเปิดพื้นที่การสนทนาระหว่างครีเอเตอร์และผู้ชมถือเป็นรูปแบบคอนเทนท์ที่ทำได้ง่ายที่สุดผ่านการไลฟ์และยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยครีเอเตอร์สามารถสร้างสรรค์หัวข้อสำหรับการพูดคุยแล้วเปิดโอกาสให้ผู้ชมตั้งคำถาม เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนและแบ่งปันความคิดเห็นในมุมต่างๆ ระหว่างครีเอเตอร์และผู้ชม ซึ่งการไลฟ์แนวถามตอบแบบเรียลไทม์จะช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์และสื่อสารกับผู้ชมได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น โดยหัวข้อการพูดคุยสามารถสร้างสรรค์ขึ้นได้อย่างหลากหลายตั้งแต่การเปิดโอกาสให้ผู้ชมถามเกี่ยวกับตัวตนของครีเอเตอร์ การนำหัวข้อที่กำลังเป็นกระแสหรือหัวข้อที่เป็นเรื่องที่ครีเอเตอร์มีความเชี่ยวชาญมาร่วมพูดคุย 

3. คอนเทนท์ Behind The Scene เบื้องหลังของกิจกรรมต่างๆ

คอนเทนท์ Behind The Scene หรือ เบื้องหลังการถ่ายทำ ยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากคอนเทนท์แนวนี้มีเสน่ห์ชวนติดตาม รวมถึงมีความเรียลที่ผู้ชมชื่นชอบ โดยอาจจะเป็นการไลฟ์พาชมบรรยากาศเบื้องหลังการทำงานหรือเหตุการณ์ต่างๆ หรือเบื้องหลังการถ่ายคลิป เป็นต้น ซึ่งคอนเทนท์แนวนี้ผู้ชมจะให้ความสนใจเป็นอย่างมากเพราะถือเป็นคอนเทนท์ที่มีความเอ็กซ์คลูซีฟ หาชมได้ยาก รวมถึงเป็นคอนเทนท์ที่จะช่วยนำเสนอความเป็นตัวตนของครีเอเตอร์ได้มากขึ้น และยังสามารถเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ชมอยากติดตามรับชมคอนเทนท์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตของครีเอเตอร์ได้อีกด้วย 

4. คอนเทนท์แนว Talk Show หรือ การสัมภาษณ์แขกรับเชิญพิเศษ

หนึ่งในวิธีการสร้างความน่าสนใจและน่าติดตามของคอนเทนท์ไลฟ์ คือ การสร้างสรรค์คอนเทนท์ร่วมกับครีเอเตอร์ผู้ทรงอิทธิพล โดยสามารถเพิ่มความน่าสนใจด้วยการเชิญชวนครีเอเตอร์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ มาร่วมพูดคุยในรูปแบบ Talk Show หรือ การสัมภาษณ์สดในหัวข้อต่างๆ ที่กำลังเป็นกระแส อาทิ เทรนด์แฟชั่น ภาพยนตร์ อาหาร หรือสิ่งที่กำลังเป็นไวรัล ซึ่งนอกจากผู้ชมจะให้ความสนใจกับบรรยากาศการพูดคุยที่แปลกใหม่จากการมีแขกรับเชิญพิเศษแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยขยายฐานผู้ชม ดังจะเห็นได้จากตัวอย่างของกิจกรรมการไลฟ์ของพิธีกรมากความสามารถอย่าง วู้ดดี้ วุฒิธร ที่มีการเชิญชวนครีเอเตอร์มาร่วมพูดคุยในการไลฟ์ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยม โดยมีคำแนะนำเพิ่มเติม คือ หลังจบการไลฟ์ ควรทำสรุปสิ่งที่น่าใจและเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้สอบถามเพิ่มเติม เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ชมให้มากยิ่งขึ้น  

5. คอนเทนท์แนวการทดลอง (Experimental Content)

คอนเทนท์แนวการทดลองที่มีลูกบ้า แหวกแนว แปลกไม่เหมือนใคร จะเป็นคอนเทนท์ที่ได้รับความสนใจจากผู้ชม เพราะในความเป็นจริงผู้ชมจะชอบติดตามชมสิ่งแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งสามารถดึงดูดความสนใจและเชิญชวนให้ผู้ชมติดตามด้วยการใส่ caption ที่ดึงดูดอย่าง “จะเป็นอย่างไรถ้า…”  หรือหากครีเอเตอร์มีความสามารถพิเศษหรือทักษะแปลกๆ ที่น่าสนใจ ก็สามารถเป็นหนึ่งไอเดียในการสร้างสรรค์คอนเทนท์ไลฟ์แนวนี้ได้เช่นกัน 

6. คอนเทนท์แนวการแปลงโฉม (Transformation)

คอนเทนท์แนวการแปลงโฉม หรือ Transformation เป็นคอนเทนท์ที่มักจะได้รับความสนใจ เพราะผู้ชมจะได้ร่วมลุ้นไปกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเมื่อเปรียบเทียบ before / after รวมถึงระหว่างการติดตาม ผู้ชมก็จะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการนำมาปรับใช้กับตัวเอง อาทิ คอนเทนท์การแต่งหน้า แต่งตัว ซึ่งการนำเสนอคอนเทนท์แนวนี้สามารถสร้างสรรค์หัวข้อได้หลากหลายให้เข้ากับเทรนด์หรือกระแสความนิยมได้ อาทิ การแต่งหน้าเลียนแบบคนดัง เป็นต้น 

7. คอนเทนท์การทำอาหารหรือการรีวิวเมนูใหม่ๆ

คอนเทนท์การทำอาหารเป็นคอนเทนท์ที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอด โดยครีเอเตอร์สามารถนำเสนอคอนเทนท์ที่เป็นการทำเมนูอาหารหรือรีวิวการลิ้มลองเมนูแปลกใหม่ แล้วแบ่งปันความคิดเกี่ยวกับเมนูผ่านการไลฟ์ อย่างคอนเทนท์ไลฟ์การทำอาหารของครีเอเตอร์ชื่อดัง บี้ เดอะสกา @bietheska ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ชมเป็นจำนวนมากด้วยยอดวิวที่สูงถึง 1.05 แสน

นับได้ว่า การไลฟ์เป็นคอนเทนท์ที่กำลังมาแรงและน่าสนใจบน TikTok LIVE ที่จะช่วยสร้างความแปลกใหม่ในการนำเสนอคอนเทนท์ การขยายฐานผู้ชมกลุ่มใหม่ๆ และการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากขึ้นระหว่างครีเอเตอร์และผู้ชม อีกทั้งยังเป็นหนึ่งทางเลือกของคอนเทนท์ที่สามารถนำมาประยุกต์กับกลยุทธ์การตลาดเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับครีเอเตอร์ได้อีกด้วย โดยในปัจจุบัน TikTok LIVE เปิดให้บริการแล้วสำหรับผู้ใช้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีผู้ติดตาม 1,000 คนขึ้นไป