TikTok ตอบรับกระแส Safer Internet Day หรือ วันแห่งการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยทั่วโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 9 กุมภาพันธ์ของทุกปี จับมือ กรมสุขภาพจิต เดินหน้าตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ความสำคัญในเรื่องการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและสร้างสุขภาวะจิตที่ดีให้กับผู้คน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้รู้สึกปลอดภัยในทุกการใช้ พร้อมเชิญชวนคนไทยร่วมแคมเปญสุดสร้างสรรค์เพื่อรณรงค์การใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างปลอดภัยกับแคมเปญ #besafebehappy เพื่อร่วมสร้างสังคมอินเทอร์เน็ตที่ดีขึ้นให้โลกออนไลน์เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน  

TikTok ดำเนินงานโดยยึดหลักแนวทางการปฏิบัติด้านความปลอดภัยควบคู่กับการกำหนดหลักจรรยาบรรณบนแพลตฟอร์ม โดยคำนึงถึงบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมและกฎระเบียบในแต่ละท้องถิ่น รวมถึงให้ความสำคัญสูงสุดในเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้ โดยผู้ใช้สามารถกำหนดการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว ลบคอมเมนท์ที่ไม่เหมาะสม หรือบล็อกผู้ใช้ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม อีกทั้งรายงานคอนเทนท์ที่ไม่เหมาะสมบนแพลตฟอร์มได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ TikTok ยังให้ความสำคัญกับการนำเสนอฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยต่างๆ บนแพลตฟอร์ม อาทิ Youth Portal เว็บไซต์สำหรับเยาวชนเพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในด้านต่างๆ , ความปลอดภัยของผู้ใช้ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถจัดการควบคุมระยะเวลาการใช้แพลตฟอร์ม และ Family Pairing โหมดแนะนำโดยผู้ปกครอง รวมถึง แหล่งข้อมูลสำหรับการป้องกันการฆ่าตัวตาย โดย TikTok พร้อมให้คำแนะนำช่วยเหลือสำหรับผู้ที่กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก  

นายสุรยศ เอี่ยมละออ Head of Marketing กล่าวว่า TikTok ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยบนแพลตฟอร์ม ล่าสุด เพื่อตอบรับกระแสวันแห่งการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัย หรือ Safer Internet Day ทาง TikTok ได้เชิญชวนคนไทยมาร่วมสร้างสังคมออนไลน์เชิงบวก เพื่อให้โลกของอินเทอร์เน็ตเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน ผ่านการสร้างสรรค์คอนเทนท์ที่เป็นประโยชน์และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนผ่านแคมเปญ #besafebehappy เพื่อร่วมแบ่งปันเรื่องราวดีๆ อาทิ การรับมือกับ Cyberbullying หรือ การกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์, โรคซึมเศร้าป้องกันอย่างไร เป็นต้น นอกจากนี้ TikTok ยังได้พัฒนาความร่วมมือกับกรมสุขภาพจิตในการนำเสนอคอนเทนท์เกี่ยวกับวิธีการดูแลสุขภาพจิตของคนไทยบนโลกออนไลน์ผ่านข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์และน่าเชื่อถือ 

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ด้วยจุดเด่นของ TikTok จะทำให้คอนเทนท์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจิตได้รับความสนใจและเกิดการรับรู้ จดจำ พร้อมกับสร้างการมีส่วนร่วมของผู้คน ซึ่งจะนำไปสู่กระแสที่จะทำให้ประเด็นสุขภาพจิตเป็นเรื่องที่สามารถพูดคุยได้ในสังคม โดยที่ผ่านมาคอนเทนท์ของกรมสุขภาพจิตบน TikTok ได้รับการตอบรับอย่างดี และล่าสุด กรมสุขภาพจิตได้เตรียมส่งคอนเทนท์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจิตจากผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อที่เป็นกระแสสังคมต่างๆ เพื่อตอบรับกระแส Safer Internet Day หรือ วันแห่งการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัย อาทิ ท่องเน็ตปลอดภัยเลี่ยงหลัก 3C, Internet Trolling คืออะไร, สงสัยโดน Cyberbullying รับมืออย่างไรดี เป็นต้น  

ในโอกาสวันแห่งการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัย หรือ Safer Internet Day ในปีนี้ TikTok ได้เปิดตัวแคมเปญ #besafebehappy เพื่อเชิญชวนคนไทยมาร่วมแบ่งปันคอนเทนท์ที่ดีมีประโยชน์ในด้านความปลอดภัยและการดูแลสุขภาพจิต อาทิ การรับมือกับคอมเมนท์บูลลี่, Cyberbullying คืออะไร, การมองโลกแง่บวก เป็นต้น เพื่อส่งเสริมการสร้างสุขภาพจิตที่ดี เนื่องด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในทุกวันนี้ อาจนำมาทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งทำให้เกิดความท้าทายใหม่ๆ ในการรับมือบนโลกออนไลน์ของผู้คนจำนวนมาก ดังนั้น TikTok ในฐานะแพลตฟอร์มดิจิทัล จึงขอเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้ผู้คนสร้างภูมิต้านทานจิตใจให้สามารถรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ได้ และรู้เท่าทันการใช้ชีวิตบนโลกดิจิทัลอย่างปลอดภัย เพื่อร่วมสร้างสังคมอินเทอร์เน็ตที่ดีขึ้น ทำให้โลกออนไลน์เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน 

ในปีที่ผ่านมา TikTok และ กรมสุขภาพจิต ได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาคอนเทนท์ดิจิทัล เพื่อส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีให้กับคนไทย ด้วยการนำเสนอแคมเปญ #3วิธีดีต่อใจ ด้วยการเชิญชวนให้ผู้คนมาร่วมแบ่งปัน 3 ข้อคิดดีต่อใจที่ทำให้สุขภาพจิตดีและมีความสุข ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยยอดวิวที่สูงถึง 23.2 ล้าน และในปีนี้ TikTok ไม่รอช้าที่จะเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จจากปีที่ผ่านมา ด้วยการพัฒนาความร่วมมือกับกรมสุขภาพจิตในการสร้างการรับรู้ด้านสุขภาพจิตที่ดีให้กับคนไทย ผ่านการพัฒนาคอนเทนท์ที่เกี่ยวกับสุขภาพจิตเชิงสร้างสรรค์บนแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ TikTok ยังได้ร่วมมือกับหลายหน่วยงานระดับโลกในการจุดประกายให้ผู้คนหันมาพูดคุยถึงแนวทางการรับมือกับปัญหาสุขภาพจิตด้านต่างๆ อาทิ องค์การอนามัยโลก (WHO) สหพันธ์สุขภาพจิตโลก(WFMH) และ United for Global Mental Health (UnitedGMH) ในการสร้างสรรค์แคมเปญ #MoveforMentalHealth รวมถึงในประเทศไทยอย่าง สะมาริตันส์ และ HappinetClub